Central Regionnewsroyal project

องคมนตรี ติดตามการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์​ เป็นวันที่สอง

วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤษภาคม 2567 พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคกลาง พร้อมด้วย นางพิชญดา หัศภาค รองเลขาธิการ กปร. และคณะอนุกรรมการฯ เดินทางไปยังสหกรณ์การเกษตรโรงสีข้าวพระราชทานอ่าวน้อย จำกัด ตำบลอ่าวน้อย อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

โดยสหกรณ์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้กล่าวรายงานผลการส่งเสริมสหกรณ์ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และประธานสหกรณ์การเกษตรฯรายงานสรุปผลการดำเนินงานกิจการสหกรณ์การเกษตรโรงสีข้าวพระราชทานอ่าวน้อยจำกัด พบว่า ปัจจุบันสหกรณ์โรงสีข้าวพระราชทานอ่าวน้อย จำกัด มีจำนวนสมาชิกทั้งหมด 473 คน  คณะกรรมการดำเนินการ จำนวน 11 คน เจ้าหน้าที่ 5 คน ผู้ตรวจสอบกิจการ 2 คน ดำเนินธุรกิจ 3 ประเภท ได้แก่ ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย (ปุ๋ย ยาเคมี ข้าวสาร สถานีบริการน้ำมัน ฯลฯ) ธุรกิจสินเชื่อ ธุรกิจแปรรูปผลผลิตการเกษตรการดำเนินงานของสหกรณ์ฯ พบว่าในปี2567มีกำไรสุทธิ114,000บาท  ปี2567 ขาดทุน 550,000บาท เพราะราคาข้าวในประเทศปรับขึ้นลงรวดเร็ว ทางสหกรณ์ขายข้าวให้กับส่วนราชการที่ต้องทำใบเสนอราคาล่วงหน้า แต่เมื่อถึงเวลาส่งมอบราคาข้าวปรับขึ้นทำให้ไม่สามารถปรับราคาได้ทัน และอีกส่วนขายข้าวให้ประชาชนในราคาไม่สูงจึงคาดว่าจะขาดทุน อีกทั้งสหกรณ์ขาดสภาพคล่องทุกเดือนเพราะต้องชำระหนี้ ขณะที่การจำหน่ายผลผลิตของสมาชิกลดลงเพราะพบภัยธรรมชาติ

ทั้งนี้สมาชิกยังหารายได้เสริมด้วยการจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรพอเพียงบ้าน ก.ม.12 ผลิตงานฝีมือต่างๆ เช่น ไม้กวาดจากทางมะพร้าว กวนสับปะรด กระเป๋าสาน
สำหรับกิจกรรมที่สหกรณ์ดำเนินการเพื่อชุมชน คือการนำเด็ก ป.5-6 มาเรียนรู้จักข้าว พาไปหว่านข้าว ดำนา และสีข้าว เด็กๆได้ข้าวไปฝากผู้ปกครอง
ทางด้านความเสียหายของโรงสีพบว่า หลังคาชำรุดโครงไม้และผนังไม้ผุชำรุด ประมาณการค่าซ่อมอยู่ที่<span;>2ล้าน8หมื่นบาท

โดยองคมนตรีเสนอแนะว่าในปี2567ให้เสนอขอวัสดุอุปกรณ์จากส่วนงานต่างๆเพื่อลดค่าใช้จ่ายซ่อมแซม และให้โยธาธิการเร่งจัดทำแผนงานและวงเงินให้ชัดเจน เพราะหากต้องการของบประมาณจาก กปร ต้องเสนอขอภายในเดือนกรกฎาคมนี้  ส่วนปี2568ให้เสนอของบประมาณในลำดับต่อไป

ทางด้านโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ยังได้รายงานแนวทางปรับปรุงโครงสร้างอาคารโรงสีข้าวพระราชทานอ่าวน้อยว่าจะดำเนินการซ่อมแซมส่วนที่ชำรุดในระยะแรกก่อน ในระยะที่2จะดำเนินการปรับปรุงสภาพให้โรงสีแห่งนี้เป็นสถานที่รำลึกถึงในหลวงรัชกาลที่9
นอกจากนี้องคมนตรีเยี่ยมชมผลผลิตทางการเกษตรของสมาชิกสหกรณ์ จากนั้นได้มอบของที่ระลึกและถ่ายภาพร่วมกัน
จากนั้นองคมนตรีและคณะได้เดินทางไปยังอ่างเก็บน้ำคลองบึงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลอ่าวน้อย  อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยรับฟังสรุปผลการดำเนินงานจากผู้แทนกรมชลประทาน และประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนรายงานผลการดำเนินงานของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวอ่างเก็บน้ำคลองบึง บ้านย่านซื่อ ว่าผลประกอบการของกลุ่มวิสาหกิจมีรายได้จากการท่องเที่ยว8แสนบาท กำไรสุทธิ90,000บาท ใช้เพื่อบริการสาธารณะ คือ เป็นทุนการศึกษาให้ รร บ้านย่านซื่อ ช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียง ผู้ด้อยโอกาสและบำบัดผู้ติดยา อีกทั้งเป็นเงินสำรองใช้จ่าย เช่น เรื่องใช้ซ่อมแซมไฟฟ้าส่องสว่าง กิจกรรมทางวัด

โอกาสนี้องคมนตรีได้ให้ข้อเสนอแนะว่าการนำน้ำจากอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ไปผลิตเป็นประปา หรืออุปโภคบริโภค สิ่งที่ต้องคำนึงคือการวางระบบบำบัดน้ำเสีย เพื่อให้มีน้ำสะอาดในการใช้และก่อนที่จะปล่อยลงทะเล
จากนั้นองคมนตรีได้มอบของที่ระลึกให้ผู้แทนกรมชลประทานและประธานวิสาหกิจชุมชน พร้อมพบปะสมาชิกกลุ่มผู้ใช้น้ำและกลุ่มวิสาหกิจชุมชน โดยกล่าวว่าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์มีโครงการส่วนพระองค์และโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริหลายโครงการ จึงได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากรัชกาลที่9และ10มาโดยตลอด และขอให้ช่วยกันรักษาความสะอาดของน้ำ ขณะที่กรมชลประทานได้ขุดลอกอ่างเพื่อเพิ่มปริมาณการเก็บกักน้ำ อย่างไรก็ตามจากวิกฤตสภาพอากาศที่ทำให้อนาคตอาจจะมีแหล่งน้ำลดลง จึงขอให้ใช้น้ำอย่างประหยัด
สำหรับอ่างเก็บน้ำคลองบึงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ปัจจุบันมีพื้นที่ชลประทาน 16,960 ไร่  ในเขตตำบลอ่าวน้อย อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์  ซึ่งตำบลอ่าวน้อยมีเนื้อที่ทั้งหมด 206 ตร.กม. หรือประมาณ  315,000 ไร่  สภาพพื้นที่โดยทั่วไปเป็นที่ราบเชิงเขา บางส่วนเป็นดินร่วนปนทราย เหมาะแก่การเกษตรกรรม สภาพการใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตตำบลอ่าวน้อย สามารถจำแนกจัดกลุ่มประเภทการใช้ที่ดินออกเป็น 5 ลักษณะ ได้แก่ พื้นที่ป่าไม้ พื้นที่แหล่งน้ำ พื้นที่เกษตรกรรม พื้นที่อยู่อาศัย และพื้นที่อื่น ๆ
ช่วงบ่าย องคมนตรีและคณะ ได้เดินทางไปยังขอพรฟาร์ม ของนายจิตร ขอพร เกษตรกรผู้ปลูกข้าว เป็นที่ปรึกษาสหกรณ์การเกษตรโรงสีข้าวพระราชทานอ่าวน้อย จำกัด และสมาชิกกลุ่มผู้ใช้น้ำอ่างเก็บน้ำคลองบึง โดยพื้นที่40ไร่ ได้จัดสรรเป็นนา5ไร่  ไร่สับปะรด 25 ไร่ ทำปาล์ม 15 ไร่ เลี้ยงวัวนม 70 ตัว เลี้ยงแพะ 80 ตัว มีรายได้ต่อเดือน 20,000 บาท
ทั้งนี้ นายจิตรฯ ได้แบ่งที่นา1.5 ไร่ เป็นศูนย์การเรียนรู้การทำนาร่วมกับสหกรณ์การเกษตรโรงสีข้าวพระราชทานอ่าวน้อย จำกัด ให้นักเรียน นักศึกษา และบุคคลทั่วไปเข้ามาเรียนรู้ขั้นตอนและขบวนการในการทำนาข้าว แล้วนำข้าวเปลือกที่ได้มาสีที่โรงสีข้าวพระราชทานอ่าวน้อยเป็นการสีข้าวเพื่อการเรียนรู้ ข้าวสารที่ได้มอบให้แก่นักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมนำไปบริโภคภายในครัวเรือนต่อไป

ขอบคุณกองประชาสัมพันธ์

สำนักงาน กปร.