บทความเฉลิมพระเกียรติ เรื่อง ความสำเร็จของศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ จ.ฉะเชิงเทรา 2567
เกษตรกรรอบศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ที่เข้ามารับความรู้และนำไปปฏิบัติจนประสบผลสำเร็จ และผ่านเกณฑ์การคัดเลือก จำนวน 13 ราย เข้ารับมอบโล่พร้อมเกียรติบัตร ศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ 2567 จากนางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือ สำนักงาน กปร.เกษตรกรทั้ง 13 รายมีความรู้ ความเชี่ยวชาญครอบคลุมในด้านต่าง ๆ ที่หลากหลาย ทั้งเกษตรผสมผสาน เกษตรทฤษฎีใหม่ เกษตรอินทรีย์ เกษตรปลอดสารพิษ วนเกษตร และการแปรรูป และพร้อมที่จะถ่ายทอดความรู้ให้แก่ผู้ที่สนใจและชุมชนโดยรอบ
ดังเช่นนางสาวเครือวัลย์ จันทศรี ได้รับรางวัลด้านการแปรรูป เล่าวว่าจากจุดเริ่มต้นปี 2554 เข้าเรียนรู้การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพราะน้ำท่วมหมู่บ้านเพราะเป็นแหล่งรับน้ำ ทำให้ข้าวเสียหายทั้งหมด แต่มะดันกลับให้ผลผลิตดี จึงคิดว่าจะทำอะไรเป็นรายได้เสริมจากการทำนา เนื่องจากพื้นที่เกษตรกรรมของตนไม่มีระบบชลประทาน จึงเกิดภาวะภัยแล้งและน้ำท่วมเป็นประจำ เมื่อได้เรียนรู้การแปรรูปผลผลิตในรูปแบบการแช่อิ่ม ซึ่งต้องนำผลไม้เชื่อมไปแช่ตู้เย็น5วันแล้วตากให้แห้ง แต่ตนไม่มีตู้เย็นจึงนำผลไม้ไปดอง แล้วพัฒนาลองผิดถูกไปเรื่อยๆจนประสบความสำเร็จ นำไปทดลองขายส่งร้านพวงครามของศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริและส่งขายให้มูลนิธิชัยพัฒนาทั้งนี้ ตนและเพื่อนบ้านได้จัดตั้งเป็นกลุ่มวิสาหกิจมิตรสัมพันธ์ รับผลผลิตจากสมาชิกและชุมชนใกล้เคียงมาแปรรูป อีกทั้งส่งเสริมการขยายพันธุ์ไม้ผลเพื่อให้มีผลผลิตมากขึ้น เช่น ตอนกิ่ง และยังนำน้ำแช่อิ่มที่เหลือทิ้งไปทำปุ๋ยน้ำหมักกองซึ่งได้ผลดีมาก ผลไม้ขนาดเล็กหรือแก่เกินไปก็นำไปทำน้ำหวานเข้มข้น เศษขนาดเล็กนำไปทำทาร์ตผลไม้รวมและข้าวพอง ทำให้ไม่มีของทิ้งหรือเสีย เป็นการต่อยอดให้เกิดประโยชน์สูงสุด ปัจจุบันสมาชิกได้รับรายได้จากการร่วมแปรรูปผลผลิต เดือนละ 4,000-9,000บาท และผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้น ได้มีการยื่นขอ อย.แล้ว 25ชนิด
ขณะที่ นายอภิชิต บุญอากาศ ได้รับรางวัลด้านเกษตรทฤษฎีใหม่ เล่าว่า ตนแต่งงานกับภรรยาซึ่งเป็นคนพนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทราเมื่อปี 2547 ได้พาครอบครัวมาท่องเที่ยวที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริเป็นประจำ และได้รับความรู้เรื่องการทำนา การเพาะเห็ด การเลี้ยงกบจากนั้นมีความคิดที่จะตั้งรกรากที่นี่จึงลงทุนปรับพื้นที่บ้านพร้อมกับประยุกต์แนวเกษตรทฤษฎีใหม่ให้เข้ากับพื้นที่ของตนเอง แล้วเข้าอบรมเกษตรทฤษฎีใหม่จากศูนย์ศึกษาฯอย่างจริงจัง พบว่าเป็นคำตอบให้กับชีวิตตนเอง จากนั้นได้รวมกลุ่มจัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชนเขาหินซ้อนเกษตรอินทรีย์ และได้รับการสนับสนุนจากศูนย์ศึกษาฯให้การรับรองผลผลิตเป็นเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วมGPSแปดริ้ว โดยกลุ่มได้วางแผนการผลิตร่วมกัน แล้วนำผลผลิตส่งจำหน่ายที่ รพ.พนมสารคาม วันจันทร์และศุกร์ เวลา 7-12น.
สำหรับแนวทางในการพัฒนาศูนย์เรียนรู้ฯต่อไปนั้น เลขาธิการ กปร.เปิดเผยว่า สำนักงาน กปร.จะยังคงสนับสนุนศูนย์เรียนรู้อย่างต่อเนื่อง จะมีการเติมเต็มองค์ความรู้ให้แต่ละศูนย์ หรือช่วยเหลือด้านอุปกรณ์ เช่น จัดทำเอกสาร ปรับสถานที่ให้เหมาะสมกับการเข้าอบรมดูงาน
พระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานพระราชดำริให้ก่อตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นแหล่งให้ความรู้และแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรและการพัฒนาอาชีพแบบวันสต็อปเซอร์วิส ได้ขยายผลองค์ความรู้สู่เกษตรกรรอบศูนย์ ให้เป็นแหล่งถ่ายทอดองค์ความรู้กว้างออกไป สร้างแนวทางการพัฒนาเกษตรทฤษฎีใหม่ อย่างมั่นคงและยั่งยืนสืบไป.
บทความโดย สุวินา เอี่ยมสุทธา
ขอบคุณภาพบางส่วน จากกองประชาสัมพันธ์ สำนักงาน กปร.