Agriculture NewsEconomics Newsnews

สสก. 3 ระยอง เร่งสร้างยุวเกษตรกร 9 จังหวัดภาคตะวันออก ขานรับการเป็น “สมาร์ท ฟาร์เมอร์”

ที่กองร้อยปฏิบัติการจิตวิทยา หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ อำเภอสัตหีบ นายชาตรี บุญนาค ผอ.สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 (สสก.3) จังหวัดระยอง กล่าวในระหว่างเป็นประธานในพิธีเปิดงาน “ชุมนุมยุวเกษตรและที่ปรึกษา ยุวเกษตรกรระดับเขต เพื่อเร่งฟื้นยุวเกษตรกรในพื้นที่ 9 จังหวัด ภาคตะวันออก” เมื่อไม่นานนี้ ว่านับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้นต่อวงการเกษตรของไทย ที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับยุวเกษตรกรไว้ในพระราชานุเคราะห์ และมูลนิธิส่งเสริมยุวเกษตรกรไทยในพระราชูปถัมภ์ฯ มีการส่งเสริมช่วยเหลือดูแลยุวเกษตรกรอย่างต่อเนื่องตลอดมา ซึ่งยุวเกษตร กรล้วนเป็นบุตรหลานของพี่น้องเกษตรกร พระองค์ทรงตระหนักและให้ความสำคัญกับการพัฒนาส่งเสริมสนับสนุนให้ยุวเกษตรกรได้เข้าถึงวิทยาการด้านการผลิต มีภาวะการเป็นผู้นำ เพื่อก้าวเข้าสู่การเป็นสมาร์ท ฟาร์เมอร์อย่างสมบูรณ์ต่อไปในอนาคต และยุวเกษตรกรนี้ ทางกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้ความสำคัญและเร่งให้มีการส่งเสริมและพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งปีนี้เป็นเป็นปีแรกที่ได้มอบหมายให้ทางสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร ที่ 3 จ.ระยอง ดำเนินการในระดับเขต และต่อไปก็จะให้มีการจัดในระดับจังหวัด ภายใต้แนวทางการพัฒนาเสริมสร้างความคิด พลังสมอง พลังกาย ตลอดถึงการสร้างกำลังใจเพื่อการขับเคลื่อนงานยุวเกษตรกรให้ก้าวเดินต่อไป “จะเห็นได้ว่าจากคำปฏิญาณของยุวเกษตรกร  ตลอดถึงเครื่องหมายที่เป็นสิ่งเตือนใจและความคิด ที่มีรูปร่างลักษณะมาจาก ใบโคลเวอร์สีเขียว 4 แฉก ซึ่งโคลเวอร์เป็นใบพืชที่อยู่ในตระกูลถั่ว และในแต่ละแฉกจะบรรจุอักษร “ก” สีขาวอยู่ ซึ่ง ก.แรก หมายถึง เกศ คือการฝึกใช้สมอง ก.ที่สอง หมายถึง กมล การฝึกจิตใจ ก.ที่สาม หมายถึง กร การฝึกใช้มือ และ ก.ที่สี่ หมายถึง กาย คือการฝึกพลานามัย ทั้ง 4 ก.ก็คือคำปฏิญาณที่ว่า “ข้าพเจ้าจะใช้สมองเพื่อดำเนินกิจการให้ก้าวหน้า “ “ข้าพเจ้าจะซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่น” “ข้าพเจ้าจะใช้มือเพื่อทำงานให้เป็นประโยชน์” และ “ข้าพเจ้าจะปฏิบัติตนให้เป็นผู้ที่มีพลามัยสมบูรณ์ เพื่อครอบครัว เพื่อท้องถิ่น และเพื่อชาติ” นายชาตรี  กล่าว

ผอ.สสก.3 ระยอง กล่าวอีกว่า การเกษตรในปัจจุบันเป็นการเกษตรของคนรุ่นใหม่ เป็นการเกษตรแบบสมาร์ท ฟาร์เมอร์ ดังจะเห็นได้ว่าปีนี้เป็นปีทองของเกษตกรโดยแท้จริง ผลผลิตทางการเกษตรนับตั้งแต่ข้าว มาจนถึงผลไม้อย่างทุเรียนและมังคุด ต่างมีราคาจำหน่ายที่สูงขึ้นกว่าปีก่อนๆ เป็นอย่างมาก ในการตลาดเพื่อจำหน่ายผลผลิตเหล่านี้ก็ได้อาศัยวิทยาการสมัยใหม่เข้ามาช่วย ทำให้ผู้ผลิตใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากขึ้น  ยังผลให้เกษตรกรมีรายได้รายหนึ่งนับล้านๆ บาท

ด้าน นางสาวสุนิชา ถาโถม ตัวแทนจากโรงเรียนวังสมบูรณ์วิทยาคม จังหวัดสระแก้ว นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หนึ่งในเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการฯ ครั้งนี้ เปิดเผยว่า การได้เข้าร่วมกิจกรรมยุวเกษตรกรครั้งนี้ ได้รับประโยชน์และความรู้มากมาย และได้ทำกิจกรรมร่วมกันจำนวน 5 ฐาน คือ ฐานการขยายพันธุ์มะนาวบนต้นส้มโอ ฐานการเพาะเชื้อราบิวเวอร์เรีย เชื้อไตรโคเดอร์มา ฐานการแปรรูปผึ้งชันโรง ฐานการเพาะเมล็ดพันธุ์ในภาชนะชนิดต่างๆ  และฐานการทำปุ๋ยหมักชีวภาพ

  “ความรู้ที่ได้รับสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้หลายๆ อย่าง สามารถเอาไปปรับใช้กับครอบครัวของเราได้เป็นอย่างดี เช่น การเพาะเชื้อราไครโคเดอร์ ก็เอาไปแก้ปัญหาโรครากเน่าของต้นมะนาวที่บ้านได้ ความรู้ในการปักชำมะนาวเพื่อขยายพันธุ์และจำหน่าย หรือการแปรรูปน้ำผึ้ง หากมีน้ำผึ้งเหลือใช้ก็สามารถนำไปทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ สร้างรายได้อีกทางหนึ่งได้เป็นอย่างดี สำหรับการปลูกพืชในภาชนะต่างๆ หากมีพื้นที่บ้านจำกัด บ้านหลังเล็กๆ หรืออยู่ในคอนโดไม่สะดวกก็สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในพื้นที่ของแต่ละคนได้ “ น.ส.สุนิชา กล่าว

สำหรับการงานชุมนุมยุวเกษตรกรและที่ปรึกษายุวเกษตรกร ระดับเขต จาก 9 จังหวัด พื้นที่ภาคตะวันออก ในครั้งนี้ มีเยาวชนยุวเกษตรกรเข้ารับการอบรมจำนวน 63 คน ที่ปรึกษายุวเกษตรกร 9 คน พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรและส่วนงานที่เกี่ยวข้องจากสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร ที่ 3 จังหวัดระยอง และสำนักงานเกษตรจังหวัด ทั้ง 9 จังหวัด เข้ารับการอบรม เพื่อส่งเสริมและพัฒนายุวเกษตรกร ผู้นำยุวเกษตรกรและที่ปรึกษายุวเกษตรกร ให้มีโอกาสและแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพิ่มพูนประสบการณ์ การดำเนินงานในกระบวนการยุวเกษตรกร ภายใต้การนำเทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่ มาดำเนินการ ตลอดถึงได้เรียนรู้ทักษะของการทำงานเป็นทีม การเรียนรู้ต่อบทบาทการเป็นผู้นำและการสร้างเครือข่าย ยุวเกษตรกร ที่ปรึกษายุวเกษตรกรระดับเขตให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น