newsroyal projectSouth region

องคมนตรี นำคณะติดตามความคืบหน้าโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในหลวง ร.9 ในภาคใต้

           (สุราษฎร์ธานี,31ก.ค.2561) นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ในฐานะประธานกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมคณะอนุกรรมการฯ เดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานการประชุมติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทั้งนี้เพื่อติดตาม เร่งรัด ขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้านพัฒนาแหล่งน้ำที่ยังมิได้ดำเนินการให้มีการขับเคลื่อนดำเนินการให้แล้วเสร็จตามพระราชปณิธานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสืบสาน รักษา ต่อยอดเพื่อสร้างประโยชน์สุขให้แก่ราษฎรต่อไป

       จากนั้น องคมนตรี ได้กล่าวเปิดการประชุม โดยมี นายลลิต ถนอมสิงห์ รองเลขาธิการ กปร. ในฐานะอนุกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รายงานสรุปภาพรวมการติดตามและขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ผ่านมามีโครงการพัฒนาด้านแหล่งน้ำที่ยังไม่ได้ดำเนินการทั้งสี่ภาครวม จำนวน 78 โครงการ และได้มีการขับเคลื่อนไปแล้ว จำนวน 28 โครงการ สำหรับพื้นที่ภาคใต้มีโครงการที่ยังไม่ได้ดำเนินการรวม 14 โครงการ ประกอบด้วย โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน 5 โครงการ อยู่ระหว่างขอรับการสนับสนุนงบประมาณ จำนวน 4 โครงการ และติดปัญหาที่จะต้องเร่งรัดและขับเคลื่อนอีก 5 โครงการ

        ลำดับต่อมา ผู้แทนกรมชลประทาน รายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริการพัฒนาด้านแหล่งน้ำในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่อยู่ระหว่างดำเนินการขับเคลื่อนเนื่องจากยังติดปัญหาสภาพพื้นที่ด้านต่างๆ  จำนวน 7 โครงการ ประกอบด้วย

        1) โครงการอ่างเก็บน้ำคลองสังข์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลกรุงหยัน อำเภอทุ่งใหญ่  จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นโครงการที่ได้พระราชทานพระราชดำริไว้ตั้งแต่ 18 กันยายน 2523 เพื่อช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกในเขตอำเภอทุ่งใหญ่ ขณะนี้ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมา แต่ยังติดสภาพปัญหาการขอใช้พื้นที่และการจัดการที่ดินบางส่วน ซึ่งหากดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จก็สามารถช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกได้ถึง 11,200 ไร่ และเพิ่มพื้นที่รับประโยชน์บริเวณท้ายโครงการประมาณ 10,800 ไร่ นอกจากนี้ยังสามารถบรรเทาอุทกภัยพื้นที่ด้านท้ายอ่างอีกด้วย

        2) โครงการอ่างเก็บน้ำลำพะยาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลลำพะยา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา เป็นโครงการที่ได้พระราชทานพระราชดำริไว้ตั้งแต่ 23 กันยายน 2523 เพื่อเก็บกักน้ำสนับสนุนการเกษตรและบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่การเกษตร

        3) โครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช พระราชทานพระราชดำริไว้ตั้งแต่ 24 ธันวาคม 2531 เกี่ยวกับการแก้ไขและฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจและสังคมของประชาชนภาคใต้โดยเน้นเรื่องการจัดสร้างและการพัฒนาแหล่งน้ำอย่างเป็นระบบเพื่อเก็บกักน้ำและระบายน้ำออกสู่ทะเล

        4) โครงการวังหีบอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช พระราชทานพระราชดำริไว้ตั้งแต่ 2 ตุลาคม 2533 เพื่อจัดหาน้ำช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกในเขตหลายตำบลของอำเภอทุ่งสง

        5) โครงการอ่างเก็บน้ำคลองสีสุกอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นโครงการที่ราษฎรขอพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณเพื่อช่วยเหลือปัญหาการขาดแคลนน้ำทำการเกษตร และการอุปโภคบริโภคในช่วงฤดูแล้งและทรงรับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2534

        6) โครงการอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่วอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลหนองธง อำเภอป่าบอน จังหวัดพัทลุง เป็นโครงการที่องค์การบริหารส่วนตำบลหนองธง ขอพระราชทานเนื่องจากประสบปัญหาความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำสำหรับการเกษตร และทรงรับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเมื่อ 8 ธันวาคม 2548 

        7) โครงการอ่างเก็บน้ำเขาพลูพร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลบางสัก อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง เป็นโครงการที่ทรงรับไว้เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2549 และจากการติดตามและขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2561ที่ผ่านมาของนายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ได้ให้ข้อเสนอแนะในการดำเนินงานโดยขอเป็นความร่วมมือระหว่างกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุพืช และกรมชลประทานในการใช้พื้นที่เพื่อก่อสร้างหัวงาน ต่อไป

        โอกาสนี้ องคมนตรี และคณะฯ ได้ร่วมกันพิจารณาหาแนวทางพร้อมให้ข้อเสนอแนะการดำเนินงานโครงการดังกล่าวให้สามารถขับเคลื่อนเพื่อสร้างประโยชน์สุขและเกิดความมั่นคงในการประกอบอาชีพของราษฎร ต่อไป