วันศุกร์, พฤษภาคม 17, 2024
Environmentnews

ถางป่าปลูกกล้วย!..พื้นที่ลุ่มน้ำชั้น1เอ ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าภูเปือยฯ กรมป่าไม้ร่วม กอ.รมน.ลุยสอบ พบไม้หวงห้ามถูกโค่น-แปรรูปอื้อ

เมื่อวันที่ 23 มี.ค.นายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ พร้อม พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.)  พล.ท.ผดุง ยิ่งไพบูลย์สุข ผอ.ศปป.4 กอ.รมน.กรมทหารพรานที่ 21 (ร้อย 2108) ฝ่ายปกครอง อ.ด่านซ้าย หน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) กรมป่าไม้ ส่วนป้องกันและปราบปรามที่ 2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) กรมป่าไม้ และหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลย.2 (ด่านซ้าย) ลงพื้นที่บ้านน้ำพุง ม.3 ต.โป่ง อ.ด่านซ้าย จ.เลย เพื่อตรวจสอบการกระทำความผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง  

เมื่อไปถึงพบว่าบริเวณดังกล่าว มีการบุกรุกพื้นที่ทำการเกษตรและสร้างรั้วแสดงขอบเขตพื้นที่บางส่วนมีการปรับพื้นที่เป็นเส้นทางลำลองเป็นถนนดิน กว้างประมาณ 6 เมตร ยาวประมาณ 800 เมตร เชื่อมต่อจากทางหลวงหมายเลข 21 ตัดผ่านพื้นที่และยาวไปถึงพื้นที่ด้านบน ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่มีสภาพเป็นพื้นที่ทำการเกษตรปลูกกล้วย อายุไม่เกิน 1 ปี และพื้นที่บางส่วนเป็นป่าเสื่อมโทรม ซึ่งปรากฏต้นไม้หวงห้ามถูกตัดฟันโค่นล้มและถูกแปรรูปกระจัดกระจายในพื้นที่ และพื้นที่บางส่วนมีลักษณะถูกปรับเรียบ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันนับจำนวนและตรวจวัดไม้แปรรูปและไม้ท่อนที่ถูกตัดทอน ปรากฏไม้ประคู่แปรรูป จำนวน 25 แผ่น/เหลี่ยม รวมปริมาตร 0.448 ลูกบาศก์เมตร และไม้ท่อนจำนวน 44 ท่อน รวมปริมาตร 4.422 ลูกบาศก์เมตร มีทั้งไม้ประดู่ ไม้แดง

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจวัดพื้นที่ถูกบุกรุก รวมทั้งเส้นทางเชื่อมต่อ โดยใช้เครื่องมือหาค่าพิกัดด้วยสัญญาณดาวเทียม (จีพีเอส) คำนวณพื้นที่ถูกบุกรุกเนื้อที่ 83-0-34 ไร่ โดยพื้นที่ถูกบุกรุกอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าภูเปือย ป่าภูขี้เถ้า และป่าภูเรือ และเป็นพื้นที่คุณภาพลุ่มน้ำชั้น 1เอ ตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศปี 2545 ปรากฏว่าพื้นที่บุกรุกส่วนใหญ่มีสภาพเป็นพื้นที่ป่าซึ่งปรากฏร่องรอยพื้นที่เกษตรกรรมบางส่วน โดยในช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบจุดเกิดเหตุไม่พบบุคคลใดในบริเวณดังกล่าว

นายอรรถพล กล่าวว่า จากการสอบปากคำข้อมูลผู้นำชุมชนและราษฎรในพื้นที่ ให้ข้อมูลตรงกันว่าพื้นที่บุกรุกเป็นของอัยการ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์  ซื้อต่อจากชาวบ้าน  เนื้อที่ประมาณ 100 ไร่ เป็นพื้นที่ครอบครอง ของอัยการไม่ทราบชื่อ โดยผู้ครอบครองเดิมชื่อ นายสุพล วิเชียรพจน์ เป็นราษฎรบ้านเลขที่ 122 หมู่ที่ 3  ต.โป่ง อ.ด่านซ้าย จ.เลย ขายให้ช่วงปลายปี 2560 ราคา 200,000 กว่าบาท และนายเฉลิม แก้วแย้ม  ราษฎรหมู่ที่ 3 บ้านน้ำพุง ขายให้ในช่วงต้นปี 2561 นี้ ราคา 200,000 กว่าบาท แต่ภายหลังทราบว่า น.ส.จตุพร ศรีมงคล ได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่มาสำรวจรังวัดแปลงที่ดินราษฎรในเขตป่าไม้ในช่วงเดือน ก.พ.2561 ว่า ตนเป็นผู้ครอบครองแปลงที่ดินในบริเวณจุดเกิดเหตุ

รองอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวต่อว่า สำหรับมูลค่าความเสียหาย ไม้ประดู่แปรรูปจำนวน 25 แผ่น/เหลี่ยม รวมปริมาตร 0.448 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นค่าเสียหายของรัฐ 29,750 บาท  ไม้ท่อน จำนวน 44 ท่อน รวมปริมาตร 4.422  ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นค่าเสียหายของรัฐรวมจำนวน 119,150 บาท ขณะที่พื้นที่ถูกบุกรุก 83-0-34 ไร่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายของรัฐ เป็นเงิน 5,664,270.26 บาท สำหรับมูลค่าความเสียหายทางด้านสิ่งแวดล้อมโดยละเอียด จะให้ผู้ชำนาญการทำการประเมินมูลค่าความเสียหายและรายงานให้ทราบต่อไป

จากนั้นได้มอบให้นายบัณฑิต วงศ์อรินทร์  หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลย.2 (ด่านซ้าย) เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษความผิดตามพ.ร.บ.ป่าไม้ ปี 2484 มาตรา 48 มาตรา 73 ฐานมีไม้แปรรูปหวงห้ามเกิน 0.20 ลบ.ม. ไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา 54, มาตรา 72 ตรี ฐานกันก่นสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า หรือทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาติ ความผิดตามพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507  มาตรา 14, มาตรา 31 ฐานยึดถือครอบครองทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ หรือทำด้วยประการใดอันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต