newsNorth regionroyal project

องคมนตรี “พลากร สุวรรณรัฐ” เร่งรัดติดตามความคืบหน้าการพัฒนาแหล่งน้ำ พื้นที่ภาคเหนือ

นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่ภาคเหนือ ติดตาม เร่งรัด และขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้านพัฒนาแหล่งน้ำในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พื้นที่ภาคเหนือ ระหว่างวันที่ 5-6 มิ.ย.2561 ที่ผ่านมา

โดยในช่วงเย็นวันที่ 5 มิ.ย.นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี พร้อมคณะอนุกรรมการฯ เดินทางไปยังโครงการชลประทานพะเยา เพื่อร่วมประชุมรับฟังสรุปผล ปัญหา อุปสรรคและความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการด้านพัฒนาแหล่งน้ำในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช บรมนาถบพิตร และในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเร่งรัด ขับเคลื่อนการดำเนินงานให้แล้วเสร็จตามพระราชประสงค์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการสืบสาน รักษา ต่อยอดโครงการเพื่อสร้างประโยชน์สุขให้เกิดกับราษฎรได้อย่างมั่นคงต่อไป

โอกาสนี้ นายดนุชา สินธวานนท์ เลขาธิการ กปร.ได้สรุปผลการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริว่า มีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่ยังไม่ได้ดำเนินการในพื้นที่ภาคเหนือจำนวน 39 เป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร มีพระราชดำริโดยตรง จำนวน  8 โครงการ และเป็นฎีกาที่ราษฎรขอพระราชทานจำนวน 31 โครงการ แต่เนื่องจากติดปัญหาในด้านต่าง ๆ จึงไม่สามารถดำเนินการได้ในขณะนั้น และจากการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในเขตพื้นที่ภาคเหนือที่ผ่านมา ทำให้สามารถขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการไปได้แล้วจำนวน 11 โครงการ อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมขอรับการสนับสนุนงบประมาณจาก กปร. จำนวน 24 โครงการ และอยู่ระหว่างดำเนินการจำนวน 4 โครงการ

จากนั้นผู้แทนกรมชลประทานรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการด้านพัฒนาแหล่งน้ำในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช บรมนาถบพิตร ประกอบด้วย

1) โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยคลองไม้แดง บ้านท่าไผ่ พร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.สามเงา จ.ตาก ปัจจุบันอยู่ระหว่างการขออนุมัติแบบ กำหนดก่อสร้างในปี 2562

2) โครงการอ่างเก็บน้ำคลองขลุงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.ขลุง จ.กำแพงเพชร ยังไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากติดปัญหาที่ดินทำกินของราษฎร

 3) โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยมะหุ่งพร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.บ้านโคก จ.อุตรดิตถ์ อยู่ระหว่างจัดทำงบประมาณ

4) โครงการอ่างเก็บน้ำน้ำปี้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.เชียงม่วน จ.พะเยา อยู่ระหว่างการก่อสร้างเขื่อนหัวงานและอาคารประกอบ

นอกจากนี้ได้รายงานความก้าวหน้าของการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประกอบด้วย

โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยเฮี้ยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ซึ่งเป็นฎีกาที่ราษฎรขอพระราชทานความช่วยเหลือเนื่องจากประสบปัญหาขาดแคลนน้ำสำหรับการเกษตรในช่วงฤดูแล้งและประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2560 ปัจจุบันโครงการอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างคิดเป็นร้อยละ 44

โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยมะแกงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.แม่สรวย จ. เชียงราย ซึ่งได้พระราชทานพระราชดำริเมื่อครั้งยังดำรงพระอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อคราวเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ (บ้านอาข่าเก่า) เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2545 โดยมีราษฎรขอพระราชทานความช่วยเหลือในการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยมะแกง เพื่อช่วยพื้นที่เพาะปลูก และเพื่อการอุปโภคบริโภค เริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่ปี 2547 แล้วเสร็จในปี 2549 มีขนาดความจุ 2,145,000 ลูกบาศก์เมตร ช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกในช่วงฤดูฝนประมาณ 2,820 ไร่ ฤดูแล้ง 740 ไร่ ราษฎรจำนวน 10 หมู่ ประมาณ 1,130 ครัวเรือน 4,520 คน มีน้ำกิน น้ำใช้ตลอดปี นอกจากนี้ยังได้ปรับปรุงระบบส่งน้ำ (ฝายพร้อมระบบส่งน้ำจำนวน 3 แห่ง ) แล้วเสร็จในปี 2556

วันรุ่งขึ้น นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี พร้อมคณะอนุกรรมการฯ เดินทางไปติดตามความก้าวหน้าของการก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำน้ำปี้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา ซึ่งเมื่อโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำน้ำปี้ฯ แล้วเสร็จ ก็สามารถส่งน้ำให้กับพื้นที่ชลประทานเดิมได้ถึง 3,000 ไร่ เพิ่มพื้นที่เพาะปลูก 25,000 ไร่ รวมถึงเพื่อการอุปโภคบริโภค ปศุสัตว์ และอุตสาหกรรมครอบคลุมพื้นที่ 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลเชียงม่วน ตำบลบ้านมาง และตำบลสระ อำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา จำนวน 34 หมู่บ้าน 7,520 ครัวเรือน และในช่วงฤดูแล้งสามารถส่งน้ำผ่านลำน้ำปี้ลงสู่แม่น้ำยมให้กับโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่ยม (ฝายแม่ยม) จังหวัดแพร่ จำนวน 35,000 ไร่ นอกจากนี้ยังสร้างประโยชน์ในการรักษาระบบนิเวศน์เกิดแหล่งประมงในการเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดเพื่อการอุปโภคบริโภค รวมถึงเกิดแหล่งพักผ่อนหย่อนใจส่งเสริมการท่องเที่ยวซึ่งจะทำให้ราษฎรมีรายได้เสริมจากการประกอบอาชีพประมงและการท่องเที่ยวในอนาคต ต่อไป