วันศุกร์, พฤษภาคม 17, 2024
newsNorth regionroyal project

องคมนตรี ตรวจเยี่ยม-ติดตามการดำเนินงานโครงการพัฒนาแหล่งน้ำแม่ฮ่องสอน

แม่ฮ่งอสอน(15 ส.ค.2561) เมื่อเวลา 13.30 น. นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ในฐานะประธานกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นประธานการประชุมติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยเฉพาะโครงการพัฒนาด้านแหล่งน้ำที่มีอายุการใช้งานมานาน และจะต้องปรับปรุงซ่อมแซมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์สูงสุด ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน

ทั้งนี้ จังหวัดแม่ฮ่องสอนมีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ทั้งสิ้น 181 โครงการ แยกเป็นโครงการพัฒนาด้านแหล่งน้ำ รวม 110  โครงการ (ข้อมูล ณ กันยายน 2560) โดยมีโครงการที่จะต้องปรับปรุงซ่อมแซม จำนวน 12 โครงการ พร้อมกันนี้ยังได้ติดตามโครงการฯ ที่ยังคั่งค้างในพื้นที่ภาคเหนือรวม 39 โครงการ ซึ่งจากการติดตามและขับเคลื่อนโครงการฯ ของคณะอนุกรรมการฯ ที่ผ่านมาสามารถขับเคลื่อนโครงการฯ ไปแล้ว 35 โครงการ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการขับเคลื่อนอีก 4 โครงการ โอกาสนี้ องคมนตรีและคณะอนุกรรมการฯ ได้ให้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพื่อให้โครงการสามารถขับเคลื่อนไปได้ ทั้งนี้เพื่อสนองพระราชปณิธานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงสืบสาน รักษา ต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริให้เกิดความยั่งยืนเพื่อสร้างประโยชน์สุขให้กับราษฎรยิ่งขึ้นต่อไป

จากนั้น เวลา 15.00 น. องคมนตรีและคณะฯ ได้เดินทางไปยังโครงการศูนย์บริการและพัฒนาลุ่มน้ำปาย ตามพระราชดำริ (ท่าโป่งแดง) ตำบลผาบ่อง อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อติดตามการดำเนินงานและเยี่ยมชมกิจกรรมต่างๆ  โครงการศูนย์บริการและพัฒนาลุ่มน้ำปายตามพระราชดำริ เป็นศูนย์บริการและพัฒนา 1 ใน 4 แห่ง ประกอบด้วย ศูนย์พัฒนาลุ่มน้ำปาย ศูนย์พัฒนาที่สูงปางตอง ศูนย์พัฒนาในสอยและศูนย์พัฒนาห้วยมะเขือส้ม ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานพระราชดำริให้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2522 เพื่อช่วยเหลือราษฎร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวไทยพื้นราบ ไทยใหญ่ และกะเหรี่ยง ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและรับจ้างทั่วไป ให้มีอาชีพที่มั่นคง มีรายได้และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นตลอดจนเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงในบริเวณพื้นที่ชายแดนให้มีความมั่นคงยิ่งขึ้น โดยดำเนินการในลักษณะพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิตยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นกรอบแนวทางดำเนินงานควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพชีวิต การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ

รวมถึงการพัฒนาเพื่อความมั่นคงของประเทศชาติ และการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว แบ่งการดำเนินงานเป็น 9 ฐานเรียนรู้ ได้แก่ ฐานเรียนรู้ด้านการจัดการน้ำ สร้างอ่างเก็บน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค และการประกอบอาชีพของเกษตรกร ฐานเรียนรู้ด้านป่าไม้ ส่งเสริมให้ราษฎรอนุรักษ์สร้างป่า สร้างรายได้และอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างยั่งยืน ฐานเรียนรู้ด้านไฟป่า สร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การป้องกันไฟป่า ฐานเรียนรู้ด้านดิน ส่งเสริมการอนุรักษ์ดินและน้ำ การปรับปรุงดินด้วยการทำปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพ การปลูกหญ้าแฝกตามแนวพระราชดำริ ฐานเรียนรู้ด้านพืช จัดทำแปลงต้นแบบการปลูกพืช เช่น มะคาเดเมีย กาแฟ มะนาว มะม่วง ฝรั่ง โกโก้ แปลงเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ แปลงผลิตพืชอินทรีย์ และการเพาะขยายพันธุ์ไม้

ฐานเรียนรู้ด้านข้าว จัดทำแปลงเรียนรู้ด้านการผลิตข้าวหลายสายพันธุ์ เช่นข้าวขาวดอกมะลิ 105 , ข้าวพันธุ์ กข อาทิ กข16 กข 21 ฯลฯ ข้าวหอมนิล ฐานเรียนรู้ด้านปศุสัตว์ ดำเนินการเลี้ยงอนุรักษ์สัตว์ในท้องถิ่น และสัตว์หายากหรือใกล้สูญพันธ์ เพื่อกระจายสัตว์พันธุ์ดีสู่เกษตรกรรวมทั้งจัดทำแปลงสาธิตการปลูกพืชเพื่อเป็นอาหารสัตว์ ฐานเรียนรู้ด้านประมง ผลิตพันธุ์สัตว์น้ำ เพื่อแพร่ขยายพันธุ์ปล่อยในแหล่งน้ำปีละ จำนวน 1,000,000 ตัว เพื่อสนับสนุนเกษตรกรในโครงการ “รักษ์น้ำเพื่อพระแม่ของแผ่นดิน”ลุ่มน้ำปาย ส่งเสริมการเลี้ยงปลาในบ่อดิน และฐานเรียนรู้ด้านการจัดการฟาร์ม ส่งเสริมสนับสนุนการประกอบอาชีพให้เกษตรกรถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการเกษตร  ส่งเสริมการทำเกษตรตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง นอกจากนี้ยังได้จัดทำแปลงเรียนรู้กล้วยไม้ พืชสมุนไพรต่าง ๆ แปลงกุหลาบตามพระราชเสาวนีย์ และขยายผลไปยังหมู่บ้านเครือข่ายอีกด้วย

ปัจจุบันนี้ ศูนย์บริการและพัฒนาลุ่มน้ำปายฯ ได้จัดตั้งศูนย์ข้อมูลโครงการพัฒนาตามพระราชดำริ เพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จครบทุกด้าน รวมทั้งดำเนินการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ด้วยสื่อต่าง ๆ เพื่อให้ราษฎรสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย ทั้งนี้เพื่อสนองพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ในขณะเดียวกันก็สร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศชาติยิ่งขึ้นต่อไป